👽ปรากฏการณ์สุดแปลก! ‘ฝนเนื้อ’ เมื่อวัตถุคล้ายเนื้อสัตว์โปรยปราย
ลงมาจากฟากฟ้าดั่งสายฝน เกิดขึ้นได้ยังไง? นักวิทย์มีคำตอบ...
ค้นหา
Custom Search
“ฝนเนื้อ” เหตุการณ์ประหลาดเกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1876 ในเมืองบาธคันทรี รัฐเคนตักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุที่มีลักษณะคล้ายเนื้อสัตว์ตกลงมาจากท้องฟ้าในพื้นที่แห่งหนึ่ง จนชาวบ้านต่างและนักข่าวแตกตื่นบางคนก็มาเพื่อชิมเนื้อปริศนานี้ ..
แต่คำถามคือ “เนื้อสัตว์” เหล่านี้มาจากไหน แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน? เรามาดูกัน
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เพียงคนเดียวคือ Allen Crouch เธอเล่าเหตุการณ์นี้ให้กับนักข่าวฟังว่า เวลาประมาณเที่ยง เธอได้เดินออกจากบ้านผ่านบริเวณลานกว้าง ในช่วงเวลานั้นมีลมพัดอ่อนๆ ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีวี่แววของฝนหรือพายุแม้แต่น้อย แต่เพียงไม่กี่ก้าวหลังเดินออกจากบ้าน เนื้อปริศนาก็เริ่มตกลงมาจากฟ้าทีละน้อย เธอได้ยินเสียงตกกระทบของวัตถุบางอย่าง ก่อนมันจะตกลงมา
ดั่งฝนตกทั่วร่างกายของเธอเลอะไปด้วยเนื้อสัตว์
แต่เพียงครู่หนึ่งมันก็หยุดทำให้บริเวณดังกล่าวก็ปกคลุมไปด้วยเศษเนื้อปริศนา จากท้องฟ้า เนื้อเหล่านี้
มีขนาดแตกต่างกันไป ใหญ่สุดก็ราวฝ่ามือของคน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเศษเล็กๆ คล้ายกับหิมะ หลายชั่วโมงถัดมาเนื้อเหล่านี้ก็เริ่มเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ชาวบ้านสองคนในเมืองดังกล่าวอาสาเป็นผู้ที่ลิ้มรสเนื้อปริศนาเหล่านี้ หลังชิมพวกเขาก็บอกว่า
“มันมีรสชาติคล้ายกับเนื้อกวางและเนื้อแกะ”
ต่อมาไม่นาน Leopold Brandeis นักวิชาการรายหนึ่งที่ได้นำตัวอย่างจากฝนเนื้อไปทำการตรวจสอบออกมาเผยว่า “นี่ไม่ใช่เนื้อสัตว์!
แต่มันคือ Nostoc (ไซยาโนแบคทีเรียหรือสาหร่ายเขียวแกมน้ำเงิน) มันเป็นสิ่งที่กินได้และมีรสชาติคล้ายกับเนื้อไก่หรือกบ
” เกิดจากการจับตัวกันของแบคทีเรียในก้อนเมฆจนเป็นวุ้นก่อนตกลงมาจากท้องฟ้าที่มีเรียกว่า “Star Jelly” ไม่ใช่เนื้อสัตว์อย่างที่หลายคนเข้าใจ
แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติม Mead Edwards นักชีววิทยากลับพบว่า
มันเป็นเศษของเนื้อสัตว์จริงๆ
ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเนื้อเยื่อบริเวณปอดของม้า ที่คล้ายคลึงกับเนื้อทารกมนุษย์ ทำให้นักชีววิทยาอีกหลายคนเข้ามาวิเคราะห์เนื้อนี้กันอย่างจริงจัง จนพบว่าฝนเนื้อเหล่าคือ ชิ้นส่วนปอดของม้า กระดูกอ่อนของสัตว์ และกล้ามเนื้อของสัตว์บางชนิดที่ปะปนกันอยู่
Star Jelly
แล้วมันไปอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างไร? คำอธิบายที่ดูจะมีความเป็นไปได้นั้นเกิดขึ้นจาก “อ้วกของแร้งดำ” นักวิชาการกลุ่มหนึ่งเชื่อว่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากกลไกการป้องกันตัวของแร้งดำ สัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่กินจุมาก
โดยล่าลูกกวาง, ลูกม้า ฯลฯ เป็นอาหาร จึงเป็นไปได้ว่ากลไกนี้เกิดขึ้นเมื่อมันถูกคุกคามจากสัตว์ชนิดอื่นๆ มันจึงอ้วกออกมาขณะบินบนท้องฟ้าเพื่อให้บินเร็วขึ้นและเพื่อความคล่องตัวมากขึ้นนั่นเอง