Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พบหลักฐานจิ๋นซีฮ่องเต้สั่งให้ค้นหายาอายุวัฒนะ

🉐พบหลักฐานจิ๋นซีฮ่องเต้สั่งให้ค้นหายาอายุวัฒนะจริง
กองทัพหุ่นทหารดินเผาแสดงถึงความปรารถนาของจิ๋นซีฮ่องเต้ที่จะครองอำนาจ
ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นักประวัติศาสตร์เผยผลการศึกษาบันทึกม้วนไม้ไผ่โบราณซึ่งค้นพบเมื่อปี 2002 ที่ก้นบ่อน้ำในมณฑลหูหนานว่า บันทึกเหล่านี้คือราชโองการจากจักรพรรดิองค์แรกของจีน ที่สั่งให้ทั่วราชอาณาจักรช่วยกันค้นหายาอายุวัฒนะ รวมทั้งหนังสือตอบจากหัวเมืองต่าง ๆ ที่ถวายรายงานผลการค้นหาดังกล่าว

บันทึกเหล่านี้เขียนด้วยอักษรจีนโบราณลงบนซี่ไม้ไผ่รวม 36,000 ชิ้น โดยซี่ไม้ไผ่ร้อยด้วยเชือกติดกันเป็นม้วนเพื่อใช้แทนกระดาษ 
และมีความเก่าแก่กว่า 2,000 ปี

นายจาง ชุนหลง นักวิจัยจากสถาบันโบราณคดีท้องถิ่น ระบุว่า บันทึกม้วนไม่ไผ่นี้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ในตำราประวัติศาสตร์สมัยหลัง ซึ่งชี้ว่าจิ๋นซีฮ่องเต้ (ฉินสื่อหวงตี้) จักรพรรดิองค์แรกของจีนผู้หมกมุ่นปรารถนาจะมีชีวิตเป็นอมตะ ได้มีราชโองการสั่งให้เมืองทุกแห่งทั่วราชอาณาจักรช่วยกันค้นหายาอายุวัฒนะเป็นการใหญ่จริง โดยราชโองการนี้ถูกส่งไปถึงแม้แต่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ห่างไกลตามแนวชายแดน

นอกจากต้นฉบับของราชโองการดังกล่าวแล้ว นักวิจัยยังพบหนังสือตอบถวายรายงานการค้นหายาอายุวัฒนะจากหัวเมืองต่าง ๆ หลายฉบับด้วย ซึ่งส่วนมากมีเนื้อหาแสดงความอับอายและอึดอัดคับข้องใจของบรรดาขุนนางหัวเมืองที่ไม่สามารถจะค้นหาตัวยาดังกล่าวมาถวายได้

หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า "ตู้เซี่ยง" มีหนังสือมากราบทูลรายงานว่า ประสบความล้มเหลวในการค้นหาตัวยามหัศจรรย์ดังกล่าว 
แต่จะยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไปอย่างไม่ลดละ ในขณะที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งชื่อ "หลังหยา" ถวายรายงานว่า สมุนไพรที่เก็บจากเขาที่เป็นมงคลแห่งหนึ่งในท้องถิ่นอาจใช้ทำยาชีวิตอมตะที่ทรงปรารถนาได้
กำแพงเมืองจีน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นผู้สั่งการสร้างขึ้น

แม้จิ๋นซีฮ่องเต้จะพยายามค้นหายาอายุวัฒนะเป็นการใหญ่ทั้งในและนอกราชอาณาจักร แต่ก็มาสิ้นพระชนม์ลงเมื่อ 210 ปีก่อนคริสตกาล ในวัย 49 พรรษาเท่านั้น 

โดยสุสานของพระองค์ที่เมืองซีอานได้ฝังกองทัพหุ่นทหารดินเผากว่า 8,000 ตัวเอาไว้ด้วย ซึ่งแสดงถึงความปรารถนาของพระองค์ที่จะครองอำนาจต่อไปตลอดกาล ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า

จักรพรรดิองค์แรกของจีนได้วางรากฐานในการรวมจีนให้เป็นประเทศที่เป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวกันในเวลาต่อมา โดยทำสงครามปราบรัฐอิสระต่าง ๆ ริเริ่มโครงการสร้างทางหลวงเชื่อมระหว่างแคว้น กำหนดตัวบทกฎหมายรวมทั้งมาตรฐานเงินตราและการชั่งตวงวัดให้เป็นแบบแผนเดียวกัน รวมทั้งเป็นผู้สั่งการก่อสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกขนาดใหญ่อย่างกำแพงเมืองจีนด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม การปกครองแบบเผด็จการที่เข้มงวดและโหดร้ายทารุณของจิ๋นซีฮ่องเต้ ทำให้เกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ขึ้นหลังสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ทำให้ราชวงศ์ฉินของพระองค์มีอันต้องล่มสลายไปไม่นานหลังจากนั้น

วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ตำนานรับน้องใหม่ ครั้งแรกของไทย!

🏫ตำนานโลก ตำนาน“รับน้องใหม่” ครั้งแรกของไทย! ที่แตกต่างกับปัจจุบันแบบสุดขั้ว
“เมื่อก้าวเท้าเข้ามา เจ้ากับข้าพี่น้องกัน”
กิจกรรม “รับน้องใหม่” ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ศิริราช เมื่อพ.ศ.2475 และนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีประเพณีนี้เกิดขึ้น หัวใจของงานรับน้องใหม่ คือ การสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้กับนักศึกษาแพทย์ โดย นักศึกษาแพทย์อวย เกตุสิงห์ เลขานุการสโมสรนักศึกษาแพทย์ในขณะนั้น เป็นผู้เสนอให้จัดงานขึ้น

โดยมีจุดประสงค์หลักก็คือ เพื่อต้อนรับนักเรียนแพทย์ที่สำเร็จเตรียมแพทย์ชั้นปีที่ 2 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจะข้ามฟากมาเรียนแพทยศาสตร์ต่ออีก4 ปีที่ศิริราช ให้มาพร้อมกันที่ท่าพระจันทร์ รุ่นพี่จะแจวเรือจ้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปรับมาขึ้นที่ท่าหอชาย รุ่นพี่จะรอต้อนรับ จากนั้นพากันไปกราบพระพุทธรูปที่อยู่หน้าหอพัก รุ่นน้องแนะนำตัวกับรุ่นพี่ จากนั้นร่วมรับประทานอาหาร
กิจกรรมรับน้องใหม่สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังสืบต่อประเพณีรับน้องใหม่มาทุกปี และปัจจุบันเรียกติดปากกันว่า “งานรับน้องข้ามฟาก” นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 จะนั่งเรือข้ามฟากมายังท่าน้ำโรงพยาบาลศิริราช คณบดีและอาจารย์ผู้ใหญ่จะรับน้องขึ้นจากเรือด้วยการดึงมือพร้อมรอยยิ้มแห่งไมตรี น้องใหม่จะไปกราบพระพุทธรูป ลอดซุ้มรับขวัญจากรุ่นพี่ จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงพิธีที่สำคัญยิ่งคือ การกล่าวปฏิญาณตนต่อหน้าพระรูปสมเด็จพระบรมราชชนก

ข้าพเจ้า จักไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มีความเอ็นดู เป็นเบื้องหน้า บำเพ็ญประโยชน์ เกื้อกูลแก่ผู้อื่น ซึ่งประสบทุกข์ ไม่สามารถนิ่งดูดายได้ เพราะกรุณา ข้าพเจ้า จะละกรรมอันชั่วร้าย และจักตั้งอยู่ในธรรม ของสัปบุรุษทุกเมื่อ ไม่เป็นผู้เห็นแก่อามิสมุ่งแต่จะเกื้อกูล ข้าพเจ้า จะศึกษาขนบธรรมเนียมและจรรยาแพทย์ และปฏิบัติตนตามแนวทางที่แพทย์จะต้องปฏิบัติ เพื่อจะได้เป็นแพทย์ที่ดีต่อไปในอนาคต (บางส่วนจากคำปฏิญาณตนของนักศึกษาแพทย์)
“เรียนร่วมสำนัก รักเหมือนร่วมแม่” ศ.นพ. อวย เกตุสิงห์ (ศิริราช รุ่น ๓๘)  “ที่ศิริราช พี่จะคอยดึง เพื่อนจะประคอง น้องจะช่วยดัน” นพ.อดิศร รัตนโยธา (ศิริราชรุ่น 115)
และนี่ก็คือเรื่องราวการรับน้องดีๆที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนๆ เป็นการรับน้องด้วยความอบอุ่นเป็นพี่เป็นน้องจริงๆ ไม่ได้รับน้องเพื่อความสะใจ หรือเพื่อเอาคืนกับสิ่งที่รุ่นพี่เคยทำไว้ แล้วมาลงกับรุ่นน้องต่ออีกทอดหนึ่ง
ที่มา agosocial

วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560

กองหินปริศนาอนุสรณ์สถานประหลาดแห่งป่าในลัตเวีย

กองหินปริศนา! อนุสรณ์สถานประหลาดแห่งป่าในลัตเวีย ที่ว่ากันว่านี่อาจเป็นประตูโลกแห่งพ่อมดและแม่มด
ป่า Pokaini ในประเทศลัตเวีย ประเทศเล็กๆ ในแถบยุโรปเหนือเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของป่าลึกลับที่มีสัญลักษณ์ประหลาดๆ ตั้งอยู่ในป่าเป็นจำนวนมาก โดยถ้าใครได้เข้าไปเดินชมภายในป่านั้นจะต้องสะดุดตากับกองหินขนาดย่อมๆ ที่กระจัดกระจายไปทั่วผืนป่า ซึ่งดูยังไงก็ไม่เหมือนกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หากแต่ว่ามันถูกสร้างมาโดยฝีมือของ “อะไรสักอย่าง”

ชาวบ้านที่อยู่ละแวกป่า Pokaini เชื่อกันว่ากองหินที่กระจัดกระจายเป็นหย่อมอยู่ในป่า Pokaini นับ 30 กองนั้นเป็นตำนานเรื่องของการไถ่บาปของเหล่าแม่มดพ่อมด ที่ได้กระทำบาปอันหนักหนา จึงใช้เวทมนตร์เสกหินขึ้นมาและนำมาวางไว้ทีละก้อนหลังจากได้ทำบาปไป ดังนั้นชาวบ้านจึงมีความเชื่อก้อนหินเหล่านี้จะมีพลังแฝงอยู่ เพราะเมื่อไรก็ตามที่ชาวบ้านเอื้อมมือไปสัมผัสกับก้อนหินนั้น ร่างกายบางส่วนของพวกเขาจะรู้สึกร้อนขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกลับไปถึงบ้านโรคที่เป็นอยู่ก็จะหายไปหรือทุเลาลง
เหตุที่กองหินในป่าแห่งนี้นั้นดูแปลกประหลาดก็เพราะพื้นที่บริเวณป่านั้นไม่มีแหล่งของหินเลยแม้แต่น้อย ซึ่งการที่มีหินเป็นจำนวนมากมาตั้งเป็นหย่อมในป่ามันจึงดูเป็นเรื่องแปลกๆ ซึ่งชาวบ้านนั้นก็ยังเชื่อกันอีกว่า หินที่วางอยู่ในป่านั้นไม่ควรจะมีผู้ใดนำไปครอบครองเพราะมันจะนำพาเรื่องร้ายๆ มาให้ ซึ่งก็เหมือนกับบ้านเราเป๊ะๆ ที่ว่ามีผู้นำมากลับไปเป็นที่ระลึกแต่ไม่นานก็ต้องกลับเอามาวางไว้ที่เดิมเพราะชีวิตพบกับเรื่องไม่ดีแบบผิดปกติ
นอกจากนี้ป่าแห่งนี้ยังมีต้นสนคู่เก่าแก่ขนาดใหญ่ที่มีความแปลกอยู่ตรงที่รูปร่างของมันที่บิดทวนเข็มนาฬิกา โดยชาวบ้านก็เชื่อกันอีกว่ามันเป็นประตูไปสู่โลกต่างมิติของพ่อมดแม่มดที่ใช้เดินทางข้ามระหว่างสองโลก โดยวันดีคืนดีมักจะมีผู้เห็นแสงสีฟ้าสว่างวาบขึ้นมาบริเวณต้นสนคู่และหายไป

รายการบล็อกของฉัน