Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Sayhuite ปริศนาก้อนหินลึกลับในยุคโบราณ


ปริศนา"ก้อนหินลึกลับ"ในยุคโบราณ สร้างขึ้นมาทำไมไม่มีใครรู้ แต่มีรูปทรงเรขาคณิตปรากฎมากกว่า 200 รูปทรง

นี่คือ Sayhuite เป็นหินลึกลับที่มีลายเรขาคณิตมากกว่า 200 ลาย ทั้งยังมีใบหน้าของสัตว์เลื้อยคลานอย่างกบ หรือแม้กระทั่งแมวอยู่อีกด้วย
โดยหินก้อนนี้ตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันออกของเมือง Abancay กว่า 47 กิโลเมตร หรืออยู่ห่างจากเมืองกุสโกนาน 3 ชั่วโมง
ก้อนหินถูกตั้งไว้บนเนินเขา มีบ่อน้ำเล็กๆ แม่น้ำ อุโมงค์ และทางน้ำล้อมรอบ ซึ่งนักวิจัยยังคงไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่สร้างมันขึ้นมา

แต่นักวิจัย Dr. Alan Amdrews คาดว่าหินอาจจะถูกนำมาใช้โดยวิศวกรในยุคโบราณเพื่อเป็นต้นแบบการออกแบบและทดสอบระบบการจัดการน้ำ เพราะหินมีร่องรอยการแก้ไขหลายครั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงทิศทางของน้ำ

ด้วยความแปลกและเป็นปริศนาลึกลับทำให้โบราณสถานแห่งนี้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แต่นักวิจัยบางคนก็เชื่อว่ามันเป็นศูนย์กลางทางศาสนาเพื่อใช้ในการบูชาน้ำและจัดพิธีกรรมเพื่อบูชาน้ำ ร่องรอยการแกะสลักบนหินเป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยัน แต่ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น

นอกจากนี้วิศวกรสมัยใหม่ยังคาดอีกด้วยว่าอาจเป็นหินที่สร้างขึ้นโดยชาวอินคา ดังนั้นหินนี้อาจเป็นชิ้นส่วนหนึ่งทางวัฒนธรรมของชาวอินคาที่หลงเหลืออยู่ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด และหินนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาอีกต่ไป? แล้วคุณล่ะคิดว่ามันคืออะไร

วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560

พบสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ช่วงรอยต่อยุคไทรแอสสิกจูราสสิก


พบสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ช่วงรอยต่อยุคไทรแอสสิก-จูราสสิก
นักวิทยาศาสตร์พบสาเหตุการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อสิ้นยุคไทรแอสสิก เกิดจากภูเขาไฟจำนวนมากระเบิดพร้อมกัน

การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ หรือ Great Mass Extinction คือการที่สายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่หายไปจากโลกในช่วงเวลาหนึ่งเป็นจำนวนมากจนพลิกโฉมหน้าให้สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์น้อยกว่าที่รอดตายกลับมาขึ้นมาครองโลกในเวลาต่อมา ช่วงเวลา 4,500 ล้านปีที่ผ่านมาเคยเกิดมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งสุดท้ายคือการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ปลายยุคครีเตเชียส(Cretaceous) ราวประมาณ 65 ล้านปีที่แล้ว เป็นการสิ้นสุดยุคไดโนเสาร์

นักวิทยาศาสตร์พยายามหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นที่ค่อนข้างแน่นอนว่าครั้งสุดท้ายหรือครั้งที่ 5 ที่เกิดเมื่อปลายยุคครีเตเชียสหรือราวประมาณ 65 ล้านปีก่อนนั้นเกิดจากการพุ่งเข้าชนของอุกกาบาตขนาดยักษ์ แต่สาเหตุของอีก 4 ครั้งก่อนหน้านั้นยังเป็นความมืดมน

ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดร่วมกับเซาแธมป์ตัน พบร่องรอยที่บอกสาเหตุของการสูญพันธุ์ครั้งที่ 4 ที่เกิดตอน 201 ล้านปีก่อนหรือช่วงรอยต่อยุคไทรแอสสิก-จูราสสิกได้แล้ว จากการวิเคราะห์ตะกอนดินที่นำมาจากแหล่งขุดค้น 6 แห่งคือสหราชอาณาจักร ออสเตรีย อาร์เจนตินา กรีนแลนด์ แคนาดาและโมร็อกโก พบว่า 5 ใน 6 แห่งมีปริมาณสารปรอทสูงมาก สัมพันธ์กับปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากในอากาศ ซึ่งทั้งสองอย่างมีความเป็นไปได้สูงว่าจะปลดปล่อยออกมาจากการระเบิดต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ของภูเขาไฟจำนวนมากมายในช่วงเวลานั้น

ผลของสารปรอทซึ่งเป็นพิษและแก้ส CO2ปริมาณมากทำให้บรรยากาศของโลกไม่เหมาะจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ในยุคนั้นอันเนื่องมาจากปัญหาทั้งการหายใจและการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ สิ่งมีชีวิตในทะเลและสัตว์บกจำนวนในโดยเฉพาะกลุ่มสัตว์เลื้อคลานได้เกิดการล้มตายเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นการสูญพัธุ์ครั้งใหญ่ครั้งที่ 4

ที่น่าแปลกใจคือสัตว์จำพวกไดโนเสาร์กลับเหลือรอดจากการสูญพันธุ์ครั้งนั้นมาสู่ยุคถัดไป
คือยุคจูราสสิกและพวกมันก็ทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วจนครองโลกต่อมาอีกหลายล้านปี เป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบกันต่อไปว่าทำไมไดโนเสาร์ถึงทนต่อสภาวะแบบนั้นได้

วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เมฆลึกลับทรงกลม ปรากฏเหนือน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น


เมฆลึกลับทรงกลม ปรากฏเหนือน่านฟ้าประเทศญี่ปุ่น

ในชีวิตจริงของคนเรา อาจไม่ได้เห็นเมฆรูปทรงแปลกๆ กันมากมาย แต่ถ้าคุณเคยศึกษาบรรดาเมฆแปลกๆ ชนิดต่างๆ คุณจะพบว่า เมฆแปลกๆ บนโลกเรา มันมีมากมายหลายแบบจริงๆ แต่รับรองว่า คุณจะไม่เคยเห็นเมฆที่มีลักษณะแปลกๆ แบบนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือบนโลกออนไลน์

เมฆทรงกลม ที่คุณได้เห็นในภาพต่อไปนี้ ถูกถ่ายได้โดยหญิงชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @pmxpvrtmx ในเมืองฟูจิซาวะ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ ในขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่ในรถยนต์

“เมื่อฉันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ฉันเห็นเมฆรูปทรงกลมเหมือนลูกบอล ฉันจ้องมันอยู่สักพักจึงรีบถ่ายรูปมันทันที ้ซึ่งตอนที่ฉันเห็นมันทีแรก มันเป็นรูปทรงกลมกว่านี้ แต่ฉันถ่ายรูปเอาไว้ไม่ทัน”

ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศให้ความเห็นว่า เมฆทรงกลมนี้ อาจปราฏการณ์ที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกับเมฆม้วน
(Roll Cloud) เกิดจากกระแสอากาศเย็นที่มาจากลมทะเลพุ่งลงพื้น โดยกระแสอากาศนี้กระจายออกจากทางด้านหน้าของพายุที่กำลังเข้ามา หรือกระจายออกจากทางด้านหลังของพายุที่กำลังสลายตัว
ก่อให้เกิดเป็นเมฆม้วนอย่างที่เห็นในรูป

ในขณะที่คุณ NicoSpqy9ba9 ก็เป็นอีกคนที่แบ่งปันภาพเมฆทรงกลม ให้ชมเช่นกัน
ซึ่งภาพนี้เขาถ่ายเอาไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 ที่ผ่านมา

และนี่ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด และหายากมากๆ เพราะแทบจะไม่เคยมีใครเจอเมฆในลักษณะนี้เลย และถ้าคุณคิดว่าเมฆทรงกลมนี้ยังดูธรรมดาๆ สามารถไปชมเมฆแปลกๆ รูปทรงอื่นๆ ได้อีกมากมาย

เมฆรูปร่างแปลกๆ ที่ดูแล้วเหมือน หมาป่า มังกร ก๊อดซิลล่า

รายการบล็อกของฉัน