Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560

คัมภีร์วอยนิชบันทึกลับที่ยังไม่มีใครรู้ความหมายที่แท้จริง


คัมภีร์วอยนิช" บันทึกลับที่ยังไม่มีใครรู้ความหมายที่แท้จริง

"คัมภีร์วอยนิช" บันทึกลับด้วยภาษาประหลาด ที่แม้ในปัจจุบัน ยังไม่มีใครรู้ความหมายที่แท้จริง และกำลังรอคอยผู้รู้มาถอดระหัสสู่สายตาชาวโลก
ภาพวาดลึกลับ นักวิชาการบางส่วนสันนิฐานว่าอาจจะบ่งชี้ถึงระบบดาราศาสตร์ก็เป็นได้
มีข้อน่าสังเกตุว่า ภาพดาราจักรบางภาพมีจำนวนช่อง 8 ช่อง มีลักษณะการหมุนคล้ายจักรที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ศาสนาทางเอเชียเช่นพุทธศาสนาเป็นต้น

ดร"คัมภีร์วอยนิช"
บันทึกลับด้วยภาษาประหลาด ที่แม้ในปัจจุบัน ยังไม่มีใครรู้ความหมายที่แท้จริง และกำลังรอคอยผู้รู้มาถอดระหัสสู่สายตาชาวโลก

"คัมภีร์วอยนิช" เป็นหนังสือประกอบภาพที่ยังไม่มีใครสามารถแปลความหมายได้ ซึ่งเชื่อกันว่าได้เขียนขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 หรือ 16 ผู้ประพันธ์ เนื้อหา และภาษาที่ใช้ในข้อเขียนนี้ยังคงเป็นปริศนาและถกเถียงกันจนถึงปัจจุบัน

ด้านดร. Ghulam Ali Alana ประจำศูนย์ภาษาสินธี (Sindhi Language) แห่งปากีสถานระบุว่า คัมภีร์นี้น่าจะบันทึกด้วยอักษร Landa Khojki scripts ซึ่งมีรากมาจากอักษรพราหมีอีกที โดยคัมภัร์วอยนิชน่าจะบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาลวิทยาโบราณ พืชศาสตร์ และอื่นๆ

ศาสตราจารย์ Stephen Bax แห่งอังกฤษ ระบุว่าจากการตรวจหาค่าคาร์บอน ทำให้ทรายว่าตัวคัมภีร์มีอายุราวศตวรรษที่15
คัมภีร์วอยนิชได้รับการศึกษาจากนักรหัสวิทยา ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญผู้มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร มาตลอดนับตั้งแต่ค้นพบหนังสือเล่มนี้ แต่ก็ไม่เคยมีใครสามารถแปลเนื้อหาได้แม้แต่ส่วนเดียว ซึ่งทำให้คัมภีร์วอยนิชมีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์ของเรื่องลึกลับ แต่ก็มีทฤษฏีว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงของปลอมซึ่งเขียนด้วยสัญลักษณ์ที่ไม่มีความหมายใด ๆ เลยเช่นเดียวกัน

หนังสือเล่มนี้ได้รับการตั้งชื่อตาม วิลฟริด เอ็ม. วอยนิช (อังกฤษ: Wilfrid M. Voynich) ผู้ค้าหนังสือเชื้อสายโปลลิชอเมริกัน ซึ่งได้หนังสือเล่มนี้มาในปีพ.ศ. 2455 หอสมุดหนังสือและข้อเขียนหายากของมหาวิทยาลัยเยล ได้รวบรวมข้อเขียนวอยนิชไว้เป็นรหัส MS 408 และได้มีการพิมพ์จำลองเพื่อเผยแพร่ในปีพ.ศ. 2548
ภาพประกอบในหนังสือทำให้เชื่อได้ว่าเนื้อหาของคัมภีร์วอยนิชนี้น่าจะแบ่งออกเป็นหกส่วนซึ่งมีรูปแบบและหัวข้อแตกต่างกันไป โดยแทบทุกหน้าจะมีภาพประกอบยกเว้นเพียงส่วนสุดท้ายซึ่งมีเพียงข้อความอ้างอิง:

ภาพวาดและข้อความลึกลับ ที่ยังไม่มีใครถอดความหมายได้

แต่ละช่องเป็นเกลียวแบบหมุนซ้ายคล้ายดาราจักร
ภาพกลางตรงกลางเป็นรูปคล้ายกลีบดอกไม้ โดยมีช่วงใหญ่ที่มีดาวมากสี่ช่อง มีนักวิชาการบางท่านเช่นไซมอน เวยแมน (Simon Wayman, 2016)สันนิฐานว่า อาจจะหมายถึงฤดูกาลทั้งสี่ในระบบจักรราศรีก็เป็นได้
ส่วนภาพขวาสุดมีช่องทั้งหมด 16ช่อง

วันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560

เมกะโปรเจ็คต์ในฝันของนักวิทย์เยอรมัน ทำเขื่อนกั้นเมดิเตอร์เรเนียน..สร้างแผ่นดินใหม่


เมกะโปรเจ็คต์ในฝันของนักวิทย์เยอรมัน ทำเขื่อนกั้นเมดิเตอร์เรเนียน..สร้างแผ่นดินใหม่!
พบกับเมกะโปรเจ็คต์สุดเพ้อฝันของนักวิทย์ชาวเยอรมัน….ที่คิดสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลเมดิเตอเรเนียนเพื่อสร้างแผ่นดินใหม่!

ราวปี ค.ศ.1920 เฮอร์มัน ซอร์เจล นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเกิดความคิดอยากสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อสร้างแผ่นดินใหม่ที่มีความกว้างถึง 254,900 ตารางไมล์ ระหว่างทวีปแอฟริกาและทวีปยุโรป 

เพื่อใช้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ของทวีปยุโรปและแอฟริกา การคมนาคมระหว่างสองทวีป นอกจากนี้ยังมีแนวคิดใช้เขื่อนดังกล่าวเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองอีกด้วย

ซอร์เจลได้พยายามผลักดันโครงการดังกล่าวจนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ.1952  ดร.ริคาร์ดา วิดัล วิทยากรในคณะวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ King’s College London ระบุว่าโครงการของซอร์เจลประสบกับปัญหาขาดแคลนเงินทุน 

เนื่องจากเยอรมนีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤติการเมืองหลังพ่ายสงครามในครั้งนั้นทำให้พรรคนาซีก้าวขึ้นมามีอำนาจ จนทำให้แนวคิดเพื่อสันติภาพของซอร์เจลถูกละเลยไป

กล่าวกันว่าโครงการของซอร์เจลถูกปรามาสจากนักออกแบบ สถาปนิก และวิศวกร เนื่องจากแทบมองไม่เห็นความเป็นไปได้ในการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว แต่เชื่อกันว่า หากโครงการของซอร์เจลเกิดขึ้นจริง มันจะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าแผนที่โลกครั้งใหญ่โดยน้ำมือของมนุษย์เลยทีเดียว

รายการบล็อกของฉัน