Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ชมกลไกป้องกันโจรขุดสมบัติภายในมหาพีระมิดแห่งกิซ่าที่ถูกจำลองขึ้นใหม่

ชมกลไกป้องกันโจรขุดสมบัติภายในมหาพีระมิดแห่งกิซ่าที่ถูกจำลองขึ้นใหม่
ชาวอียิปต์โบราณได้สร้างระบบกลไกที่ละเอียดอ่อนโดยใช้แท่งหิน ร่อง และทางลาดภายในมหาพีระมิดแห่งกิซ่าเพื่อปกป้องสุสานของกษัตริย์จากพวกโจรนักล่าขุมทรัพย์

Mark Lehner นักอียิปต์วิทยาที่ปัจจุเป็นเป็นหัวหน้าสมาคมวิจัยอิยิปต์โบราณ (Ancient Egypt Research Associates – AERA) ซึ่งเป็นทีมงานที่ได้ทำการขุดสำรวจที่มหาพีระมิดแห่งกิซ่าเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ได้อธิบายการทำงานของระบบดังกล่าวซึ่งเขาเรียกมันว่า “กลไกแบบดั้งเดิม” ในรายการ “Unearthed” ทางช่อง Science Channel

นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าสุสานของกษัตริย์ยังเก็บรักษาพระศพของฟาโรห์คูฟู (ครองราชย์ระหว่าง 2551-2528 ปีก่อนคริสตศักราช) ผู้สร้างมหาพีระมิดแห่งกิซ่าซึ่งเป็นพีระมิดที่สูงที่สุดในอียิปต์ นอกจากสุสานของกษัตริย์แล้วภายในมหาพีระมิดยังมีสุสานขนาดใหญ่อื่นอีก 2 แห่ง เรียกว่าสุสานราชินี และสุสานใต้ดิน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าทั้งสองห้องใช้สำหรับทำอะไร

เพื่อปกป้องสุสานของฟาโรห์ ชาวอียิปต์โบราณสร้างร่องและแท่งหินซ่อนอยู่ใต้ผนังของพีระมิด ซึ่งนักวิชาการได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่ในครั้งนี้รายการโทรทัศน์ได้ใช้คอมพิวเตอร์แอนิเมชันจำลองการสร้างและวิธีการทำงาน ภาพเคลื่อนไหวแสดงให้เห็นแท่งหิน 3 แท่งถูกแขวนอยู่ในร่องตอนที่สร้างพีระมิด

หลังเสร็จพิธีฝังพระศพฟาโรห์ระบบจะทำการปล่อยแท่งหินลงมาปิดทางเข้าสุสาน และแท่งหินอีก 3 แท่งจะถูกปล่อยให้ไหลตามทางลาดลงมาปิดช่องทางเดินเข้าสู่สุสาน
คุณสามารถเห็นการทำงานของมันในวิดีโอข้างล่าง

แต่มันยังมีกลอุบายมากกว่านี้ มีการพบช่องทางเดินเล็กๆอีก 4 ช่อง มี 2 ช่องเริ่มจากสุสานกษัตริย์ อีก 2 ช่องเริ่มจากสุสานราชินี หุ่นยนต์ได้ถูกส่งลงไปสำรวจช่องทางเดินนี้และได้พบประตู 3 บานที่มีมือจับเป็นทองแดง

Zahi Hawas อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ บอกว่าเขาคิดว่าทางเดินเล็กๆนี้จะนำไปสู่ห้องฝังพระศพฟาโรห์คูฟูที่แท้จริง โลงหินในสุสานของกษัตริย์เป็นกลอุบายหลอกนักล่าสมบัติให้คิดว่าพบหลุมศพฟาโรห์แล้ว
“ผมเชื่อจริงๆว่าห้องฝังพระศพฟาโรห์คูฟูยังไม่ได้ถูกค้นพบเลย และห้องทั้งสามเป็นเพียงการหลอกลวงพวกหัวขโมย และทรัพย์สมบัติของฟาโรห์คูฟูยังคงซ่อนอยู่ภายในพีระมิด” Hawass กล่าว

นักอียิปต์วิทยาหวังว่าการสำรวจพีระมิดครั้งใหม่ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยการใช้การสแกนด้วยเรดาร์ อินฟาเรด และรังสีคอสมิก จะช่วยให้พบกับห้องสุสานที่ซ่อนอยู่

วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปริศนาถูกไข ค้นพบซากเรือกองทัพอังกฤษที่หายไปเกือบ 170 ปี


ปริศนาถูกไข ค้นพบซากเรือกองทัพอังกฤษที่หายไปเกือบ 170 ปี
แคนาดาพบแล้ว 1 ใน 2 ซากเรือของกองทัพอังกฤษที่หายสาบสูญขณะแล่นสำรวจดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ภายใต้ภารกิจสำรวจดินแดน
ของเซอร์จอห์น แฟรงคลิน (SirJohnFrankllin)
เมื่อเกือบ 2 ศตวรรษที่แล้ว พบจมอยู่ใกล้เกาะคิงวิลเลียม
(King Willian Island)
ในมหาสมุทรอาร์กติก
          
วันที่ 10 กันยายน 2557 มีรายงานจากเว็บไซต์เดอะการ์เดียน  ว่า นายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ (Stephen Harper) นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ได้แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 ก.ย.) ถึงการค้นพบ 1 ใน 2 ซากเรือสำรวจทะเลของกองทัพเรืออังกฤษที่สูญหายอย่างเป็นปริศนาเกือบ 170 ปีก่อน อันนับเป็นค้นพบครั้งใหญ่ของประวัติศาสตร์ และยิ่งใหญ่มากสำหรับแคนาดา แม้ว่าจะยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นเรืออีเรบัส (Erabus) หรือเทอร์เรอร์ (Terror) ก็ตาม
          
ภารกิจเดินเรือสำรวจสมุทรทางตะวันตกเฉียงเหนือของเซอร์จอห์น แฟรงคลิน เริ่มต้นในปี 2388 โดยอาศัยเรือ 2 ลำ คือ อีเรบัสและเทอร์เรอร์ ก่อนจะหายไปไม่มีใครค้นพบอีกเลยในปีถัดมา มีความพยายามออกตามหาเรือทั้งสองอยู่นานแต่ก็ไม่ประสบผล จนกระทั่งถูกยกเลิกภารกิจไปในปี 2402 ในช่วงระยะเวลาหลังจากนั้นก็มีการค้นพบร่องรอยของลูกเรือบนเรือทั้งสองอยู่บ้าง แต่ไม่อาจสืบไปถึงตำแหน่งของเรือได้
          
อย่างไรก็ดีการออกเดินทางสำรวจดินแดนที่ไกลออกไปทางตอนเหนือของโลกของอังกฤษ นับเป็นครั้งแรกของการบุกเบิกสำรวจดินแดนส่วนนี้ แม้ว่าการล่องเรือข้ามมหาสมุทรไปยังดินแดนทางตอนเหนือจะเพิ่งทำได้สำเร็จในอีก 58 ปีให้หลังก็ตาม ซึ่งมีผลสำคัญต่อการสำรวจพื้นที่่มหาสมุทรอาร์กติกของแคนาดาในเวลาต่อมา
  
นักโบราณคดีและนักประดาน้ำของแคนาดาได้จุดโครงการค้นหาซากเรือสำรวจดินแดนของกองทัพอังกฤษอีกขึ้นครั้งในปี 2551 หลังรัฐบาลแคนาดามีความพยายามในการอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงเหนือ
          

ทั้งนี้ซากเรือลำดังกล่าวถูกพบเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งค้นพบซากข้อต่อเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของเรือมาก่อนหน้านั้น โดยเรือจมในลักษณะจอดนิ่ง อยู่ลึกลงไปใต้ผิวน้ำเพียง 11 เมตร ใกล้กับเกาะเซอร์วิลเลียม ภาพจากคลื่นโซนาร์เผยให้เห็นซากเรือยังอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ โดยเสากระโดงเรือได้หักออกไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า เมื่อ 168 ปีก่อน เรืออาจแล่นมาติดน้ำแข็งที่เกาะแห่งนี้ และลูกเรือได้สละเรือทิ้งแล้วออกเดินทางต่อไปบนดินแดนน้ำแข็ง ส่วนการค้นหาร่องรอยของเหล่าลูกเรืออาจเป็นไปได้ยาก เพราะบรรดาลูกเรือคงเดินทางต่อไปอีกไกล อีกทั้งชาวข้อมูลจากชาวไอนุท (Inuit) ที่อาศัยบนดินแดนน้ำแข็งในตอนนั้นก็ชี้ทิศการเดินทางของลูกเรือไม่ตรงกันด้วย

รายการบล็อกของฉัน