ปริศนาถูกไข ค้นพบซากเรือกองทัพอังกฤษที่หายไปเกือบ 170 ปี
แคนาดาพบแล้ว 1 ใน 2 ซากเรือของกองทัพอังกฤษที่หายสาบสูญขณะแล่นสำรวจดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ภายใต้ภารกิจสำรวจดินแดน
ของเซอร์จอห์น แฟรงคลิน (SirJohnFrankllin)
เมื่อเกือบ 2 ศตวรรษที่แล้ว พบจมอยู่ใกล้เกาะคิงวิลเลียม
(King Willian Island)
ในมหาสมุทรอาร์กติก
ของเซอร์จอห์น แฟรงคลิน (SirJohnFrankllin)
เมื่อเกือบ 2 ศตวรรษที่แล้ว พบจมอยู่ใกล้เกาะคิงวิลเลียม
(King Willian Island)
ในมหาสมุทรอาร์กติก
วันที่ 10 กันยายน 2557 มีรายงานจากเว็บไซต์เดอะการ์เดียน ว่า นายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ (Stephen Harper) นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ได้แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 ก.ย.) ถึงการค้นพบ 1 ใน 2 ซากเรือสำรวจทะเลของกองทัพเรืออังกฤษที่สูญหายอย่างเป็นปริศนาเกือบ 170 ปีก่อน อันนับเป็นค้นพบครั้งใหญ่ของประวัติศาสตร์ และยิ่งใหญ่มากสำหรับแคนาดา แม้ว่าจะยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นเรืออีเรบัส (Erabus) หรือเทอร์เรอร์ (Terror) ก็ตาม
ภารกิจเดินเรือสำรวจสมุทรทางตะวันตกเฉียงเหนือของเซอร์จอห์น แฟรงคลิน เริ่มต้นในปี 2388 โดยอาศัยเรือ 2 ลำ คือ อีเรบัสและเทอร์เรอร์ ก่อนจะหายไปไม่มีใครค้นพบอีกเลยในปีถัดมา มีความพยายามออกตามหาเรือทั้งสองอยู่นานแต่ก็ไม่ประสบผล จนกระทั่งถูกยกเลิกภารกิจไปในปี 2402 ในช่วงระยะเวลาหลังจากนั้นก็มีการค้นพบร่องรอยของลูกเรือบนเรือทั้งสองอยู่บ้าง แต่ไม่อาจสืบไปถึงตำแหน่งของเรือได้
อย่างไรก็ดีการออกเดินทางสำรวจดินแดนที่ไกลออกไปทางตอนเหนือของโลกของอังกฤษ นับเป็นครั้งแรกของการบุกเบิกสำรวจดินแดนส่วนนี้ แม้ว่าการล่องเรือข้ามมหาสมุทรไปยังดินแดนทางตอนเหนือจะเพิ่งทำได้สำเร็จในอีก 58 ปีให้หลังก็ตาม ซึ่งมีผลสำคัญต่อการสำรวจพื้นที่่มหาสมุทรอาร์กติกของแคนาดาในเวลาต่อมา
นักโบราณคดีและนักประดาน้ำของแคนาดาได้จุดโครงการค้นหาซากเรือสำรวจดินแดนของกองทัพอังกฤษอีกขึ้นครั้งในปี 2551 หลังรัฐบาลแคนาดามีความพยายามในการอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ซากเรือลำดังกล่าวถูกพบเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งค้นพบซากข้อต่อเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของเรือมาก่อนหน้านั้น โดยเรือจมในลักษณะจอดนิ่ง อยู่ลึกลงไปใต้ผิวน้ำเพียง 11 เมตร ใกล้กับเกาะเซอร์วิลเลียม ภาพจากคลื่นโซนาร์เผยให้เห็นซากเรือยังอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ โดยเสากระโดงเรือได้หักออกไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า เมื่อ 168 ปีก่อน เรืออาจแล่นมาติดน้ำแข็งที่เกาะแห่งนี้ และลูกเรือได้สละเรือทิ้งแล้วออกเดินทางต่อไปบนดินแดนน้ำแข็ง ส่วนการค้นหาร่องรอยของเหล่าลูกเรืออาจเป็นไปได้ยาก เพราะบรรดาลูกเรือคงเดินทางต่อไปอีกไกล อีกทั้งชาวข้อมูลจากชาวไอนุท (Inuit) ที่อาศัยบนดินแดนน้ำแข็งในตอนนั้นก็ชี้ทิศการเดินทางของลูกเรือไม่ตรงกันด้วย