Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เปิดตำนาน “เผ่านักรบหญิง แห่ง อเมซอน

😁เปิดตำนาน “เผ่านักรบหญิง แห่ง อเมซอน” สุดยอดนักรบ ต้นแบบ WONDER WOMAN
ถ้าจะให้นิยามถึงชาว อเมซอน ซึ่งเป็นต้นแบบของ วันเดอร์วูแมน (Wonder Woman) หนึ่งใน Superhero ของทาง DC แบบสั้นๆ 
กระชับที่สุด คงเหมือนเอาชาวสปาร์ตัน ที่ทุกคนเคยเห็นในเรื่อง 300 มาสลับบทบาทระหว่างเพศชายกับเพศหญิงกันนั่นแหละ แถมสนุกเร้าใจไม่แพ้กันด้วย
เผ่าอเมซอน เป็นตำนานเล่าขานกันในหมู่ชาวกรีกโบราณมายาวนาน ว่าเป็นเผ่านักรบหญิงที่มีพละกำลัง และทักษะการรบที่เก่งกาจไม่แพ้ผู้ชาย บ้างก็บอกว่าเก่งกว่าแต่ก็น่าจะจริงเพราะดูแล้วพวกเธอแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามาก จากบันทึกได้เผยว่า นักรบหญิงอเมซอน มีส่วนร่วมอยู่ในประวัติศาสตร์การรบของชาวกรีกอยู่บ่อยครั้ง เช่น ยุคมหาสงครามกรุงทรอยก็เคยประมือกับวีรบุรุษอคีลิสมาแล้ว 

หรือแม้แต่ในตำนานของจอมพลัง เฮอร์คิวลีส เองก็มีเรื่องราวของชาวอเมซอนรวมอยู่ด้วย
ตามประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่านักรบหญิงอเมซอนถูกฝึกตั้งแต่ยังแบเบาะ กล่าวคือนับตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก็จะได้รับการฝึกให้ชินกับความยากลำบาก พวกเธอไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งดื่มนมแม่ โตขึ้นมาก็ถูกฝึกเป็นนักรบ นักรบหญิงอเมซอนไม่มีความคิดเรื่องการแต่งงานหรือครองเรือน เว้นเสียแต่จะทำเพื่อสืบเผ่าพันธุ์เท่านั้น

✋การเมืองการปกครองของอเมซอนที่เพศหญิงเป็นใหญ่ที่สุด ผู้หญิง ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่งานบ้านจนถึงการศึก เมื่อถึงเวลาต้องการสืบเผ่าพันธุ์ก็ต้องออกไปหาบุรุษเพศจากต่างเผ่า แถมยังเชื่อกันด้วยว่าหากได้ลูกชายก็จะฆ่าทิ้งเสีย ไม่ก็ทำให้พิการจะได้ออกรบไม่ได้
รวมถึงเรื่องที่ว่าชาวอเมซอนจะต้องตัดเต้านมออกข้างหนึ่งเพื่อจะได้ไม่เกะกะเวลาง้างธนู หรือขว้างหอกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะจริงสักเท่าไหร่ เพราะในภาพวาดโบราณก็ไม่เคยมีอะไรแบบนั้นถูกบันทึกไว้เลย ถ้าจะใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะแค่ชุดออกรบของพวกเธอ ที่จะสวมเสื้อหนังสัตว์แบบเปลือยไหล่หนึ่งข้าง เพื่อความถนัดในการออกรบนั่นเอง
(เอาจริงๆ ตอนจะรบกันคงไม่มีใครมีอารมณ์มานั่งส่องสาวหรอกเนาะ)
มาถึงตรงนี้ จึงทำให้เราเกิดคำถามขึ้นมาว่า ด้วยเรื่องเล่าที่ชวนเหลือเชื่อแบบนี้เลยทำให้เราไม่อาจปักใจได้ว่าอเมซอนมีจริงหรือไม่…? แต่เรื่องของอเมซอนก็ดูเหมือนจะยังมีเค้าความจริงอยู่บ้าง จากหลักฐานการขุดพบสุสานของชาวไซเธียน ชนเผ่าเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ในแถบทะเลดำ ไล่ไปถึงมองโกเลียนั่นเอง ซากสุสานที่ค้นพบส่วนใหญ่แล้วจะเจอทั้งธนู คันศร หอก มีด โครงกระดูกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการสู้รบ โครงกระดูกม้า และอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของสตรีเพศ เป็นข้อพิสูจน์ถึงการมีตัวตนได้อย่างแน่ชัด เพราะพวกเธอเป็นชนเร่ร่อน นั่นเอง

ว่ากันว่า บ้านที่แท้จริงของนักรบหญิงอเมซอนนั้นตั้งอยู่ที่ เกาะ Giresun Island ในประเทศตุรกี เพราะบนเกาะมีการขุดพบแท่นบูชา และซากโบราณสถานอยู่จริงด้วย นั่นจึงทำให้คิดได้ว่าเกาะอเมซอนนั้นอาจไม่ได้เป็นเพียงนิทานปรัมปราก็ได้ ซึ่งหากใครเคยอ่านเรื่อง อภินิหารขนแกะทองคำ จะร้องอ๋อขึ้นมาเลย

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

คลีโอพัตรา หน้าตาสวยจริงหรือไม่?

😮คลีโอพัตรา ไม่ได้สวยอย่างที่คิด? แต่ที่ถูกยกให้เป็นผญที่สวยที่สุดในโลกก็เพราะ 
ความฉลาด
คลีโอพัตรา หน้าตาสวยจริงหรือไม่?
งานเขียนเว็บไซต์ Heritage daily ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ความงามที่ร่ำลือกันของคลีโอพัตรานั้นมีพื้นฐานที่น่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด หากอาศัยหลักฐานที่ปรากฏตามประวัติศาสตร์มาพิจารณาประกอบ งานเขียนของนักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน คาสซีอุส ดิโอ (Cassius Dio) ซึ่งมีขึ้นหลังการจากไปของคลีโอพัตรากว่า 200 ปี

กล่าวว่า คลีโอพัตราเป็น “หญิงที่งามเกินกว่าความงามใดๆ” เป็นผู้ที่แค่ “ได้มองเห็นก็ถือเป็นบุญตา” ขณะที่พลูตาร์ก (Plutarch) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกได้เขียนถึงคลีโอพัตราก่อนหน้าดิโอนับร้อยปีว่า “ความงามของเธอ…ใช่ว่าจะหาผู้ใดเปรียบมิได้ หรือจะทำให้ผู้ใดตื่นตะลึงได้เพียงแค่เห็นหน้าเธอ”
อย่างไรก็ดี งานเขียนทั้งสองชิ้นต่างก็มิได้เขียนขึ้นในยุคที่เคลีโอพัตรายังมีชีวิตอยู่จึงไม่อาจบอกได้ว่างานเขียนชิ้นใดมีความน่าเชื่อถือมากกว่ากัน ขณะที่ภาพสลักของเธอในยุคโบราณที่ปรากฏบนเหรียญตราต่างๆก็มีลักษณะแตกต่างกันไปตั้งแต่ หน้าตาพื้นๆ ไปจนถึงหญิงจมูกงุ้มและดูเหมือนผู้ชาย
เหรียญ
เมลานี รีด นักวิชาการด้านโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ ค้นพบเหรียญโรมันโดยบังเอิญระหว่างการตรวจสอบเหรียญโบราณที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ของธนาคารแห่งหนึ่งในนิวคาสเซิล เหรียญเหล่านี้ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีจนอยู่ในสภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์ 
ทำให้สามารถศึกษารูปร่างหน้าตาของคลีโอพัตราได้

เชื่อว่าผลิตขึ้นมาเพื่อฉลองชัยชนะในการพิชิตอาร์เมเนียของจักรพรรดิโรมัน หรือไม่ก็ ผลิตขึ้นมาเพื่อจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับเหล่าทหารหาญโรมันที่ประจำการอยู่ในอียิปต์
โดยนักโบราณคดี ได้ระบุ รูปลักษณ์ที่แท้จริงของ ราชินี คลีโอพัตรา เอาไว้ว่า พระองค์มีลำคออ้วนเป็นปล้อง หรือเรียกว่า “Rolls of Venus” มีจมูกงุ้ม หูยาว คางแหลม สูงประมาณ 150 เซนติเมตร หรือเท่าๆ กับหญิงในยุคพโทเลมิก

“ภาพบนเหรียญห่างไกลจากภาพของเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ และริชาร์ด เบอร์ตันมาก” ลินด์เซย์ อัลเลสัน-โจนส์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์โบราณคดีของมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล พาดพิงถึงภาพยนตร์เรื่อง ‘คลีโอพัตรา’ ที่ออกฉายในปี 1963
คอมพิวเตอร์
จากการรวบรวบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับพระนางคลีโอพัตรา ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด รูปปั้น รวมไปถึงสิ่งของเครื่องใช้เช่นแหวน ที่เชื่อว่าเป็นของพระนางคลีโอพัตรา นำมาประมวลด้วยเทคนิคทาง Computer 3D ทำให้ได้ภาพที่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอียิปต์ เชื่อว่ามีความใกล้เคียงกับพระนางคลีโอพัตราที่สุด
ภาพที่ได้จาก computer พบว่าพระนางคลีโอพัตรามีผิวค่อนข้างคล้ำ ไม่ได้ขาวแบบชาวยุโรปตามที่พวกเราเคยชมจากภาพยนตร์เรื่องคลีโอพัตรา ที่นำแสดงโดย Elizabeth Tayler ดาราที่สวยที่สุดของฮอลลีวู้ดในยุคปี 1960

ความฉลาดอันเหลือล้นของ คลีโอพัตรา
แต่หากก้าวข้ามข้อโต้แย้งเรื่องความงามทางกายภาพของคลีโอพัตรา จะเห็นได้ว่า นักประวัติศาสตร์ของทั้งกรีกและโรมันสองรายนี้ได้กล่าวถึงเสน่ห์ของราชินีแห่งอียิปต์ได้อย่างสอดคล้องกัน
– คาสซีอุส ดิโอ กล่าวว่า “คลีโอพัตรา มีเสียงที่น่าดูดดื่มและยังรู้จักทำให้ผู้อื่นพึงพอใจในตัวเธอได้ทุกคน”
– พลูตาร์ก กล่าวว่า “คลีโอพัตรา มีเสน่ห์ที่ไม่อาจหักห้าม ตัวตนของเธอบวกกับวาจาโน้มนำและบุคลิกที่เธอปฏิบัติต่อผู้อื่นกลายเป็นสิ่งเร้าที่เย้ายวนอย่างยิ่ง”
จากข้ออ้างของสองนักประวัติศาสตร์เห็นได้ว่า เสน่ห์ของคลีโอพัตราก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปร่างหน้าตาของเธอบ้าง แต่สิ่งที่ส่งอิทธิพลอย่างสูงคือสติปัญญา บุคลิก และวาจาของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าทั้งซีซาร์และแอนโทนีต่างก็เป็นเสือผู้หญิงตัวยง ลำพังเรือนร่างหน้าตา และกามาอาจมิใช่สิ่งที่ทำให้ชายทั้งสองลุ่มหลงในตัวเธอได้ พูดง่ายๆ ว่า คลีโอพัตรา ใช้สมองของพระนางสยบผู้ชายมากกว่าใช้ร่างกายนั่นเอง
– พลูตาร์ช ยังได้เขียนถึงความฉลาดเฉลียวของคลีโอพัตราไว้เพิ่มเติมอีกด้วยว่า “พระองค์ทรงสนทนาด้วยพระสุรเสียงที่อ่อนหวาน ช่างจำ นรรจา ซึ่งการจำนรรจานั้นเต็มไปด้วยความฉลาดปราดเปรื่อง จนไม่มีผู้ใดโต้แย้งพระองค์ได้”
– เจฟฟรีย์ ชอว์เซอร์ จินตกวีอังกฤษ เขียนไว้เมื่อศตวรรษที่ 14 ว่าคลีโอพัตรา “อ่อนหวานราวดอกกุหลาบเดือนพฤษภาคม”
– เชคสเปียร์ “อายุไม่สามารถทำลายนางได้ หรือทำให้ความหลากหลายไม่มีที่สิ้นสุดในตัวนางจืดชืดลง”
– พูดได้ 9 ภาษา
– เริ่มปกครองอียิปต์ด้วยวัยเพียง 17 ปี ช่วยรักษาความเป็นเอกราชของอียีปต์ได้นาน 22 ปี และทำให้อียิปต์ในยุคนั้นมั่งคั่งมาก
– เชี่ยวชาญในด้านคณิตศาสตร์ รอบรู้เรื่องรัฐศาสตร์ และหลักการปกครอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ดี
– รวมทั้งยังเก่งเรื่องอักษรศาสตร์และศิลปศาสตร์ ตลอดเวลาที่ทรงครองบัลลังก์ พระนางแต่งโคลงกลอนไว้มากมาย
เพราะความปราดเปรื่องนี้เอง ทำให้กองทัพอียิปต์มีความเข้มแข็ง ในครั้งนั้น “นคร อเล็กซานเดรีย” เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ และเป็นนครที่มีความทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการแพทย์ที่ก้าวหน้า มีวิทยา การด้านชันสูตร มีห้องสมุดที่กว้างขวางใหญ่โต และมีประภาคาร จน “นครอเล็กซานเดรีย” ดึงดูดให้ศิลปิน ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม นักปราชญ์ กวี จากทั่วโลกเข้ามาอยู่อาศัย

รายการบล็อกของฉัน