Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

มัมมี่เอเลี่ยน แท้ที่จริงเป็นอะไรกันแน่

มัมมี่เอเลี่ยน แท้ที่จริงเป็นอะไรกันแน่ เผยความจริงปริศนาจากยุคโบราณที่ทำคนยุคใหม่สะพรึง
          
viral4real เผยปริศนาของมัมมี่
เอเลี่ยน ซากศพไม่เน่าเปื่อยที่มี
รูปร่างผิดแผกไปจากมนุษย์ แล้วแท้ที่จริงมันคืออะไร มาสำรวจโลกลึกลับพร้อมกัน
          
โลกยุคโบราณ ยังเต็มไปด้วยเรื่องลึกลับที่คนยุคปัจจุบันไม่เข้าใจ แล้วมันยังแฝงปริศนาเชื่อมโยงไปถึงความเชื่อเรื่องของมนุษย์ต่างดาว เหมือนกับซากมัมมี่เอเลี่ยนอันโด่งดัง

ที่ค้นพบบริเวณทะเลทรายในประเทศเปรู ทะเลทรายที่มีเส้นนาซคาอันโด่งดัง
          
มัมมี่เอเลี่ยนที่ค้นพบนี้ กลายเป็นข่าวลือในโลกออนไลน์ว่า มันไม่ใช่ร่างของมนุษย์ เนื่องจากลักษณะทางกายภาพที่มีหัวกะโหลกยาว จมูกเล็กจิ๋ว ไม่มีใบหู ที่สำคัญ ร่างมัมมี่มีแค่สามนิ้ว!!

ซึ่งสื่อบางแห่งในโลกออนไลน์ ก็สร้างหลักฐานที่ยืนยันว่า DNA รวมถึงการวิจัยร่างมัมมี่นี้ บ่งบอกว่า 
มันไม่ตรงกับของมนุษย์
          
ทว่า ข้อมูลดังกล่าวยากจะทำให้
นักวิจัยเชื่อ จนนำมาสู่การค้นหาหลักฐานมาคัดค้านจนพบว่า แท้ที่จริงแล้ว มัมมี่เอเลี่ยนที่เห็น ก็คือร่างมัมมี่ของมนุษย์ธรรมดาๆ คาดว่าจะเป็นร่างของเด็ก
          
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำไมมัมมี่ถึง
มีแค่สามนิ้วนั้น เป็นไปได้ว่า มีการตัดนิ้วก้อยและนิ้วหัวแม่มือออกไป พร้อมทั้งผ่าง่ามนิ้วจนทำให้เกิดนิ้ว
ที่ดูเหมือนเรียวยาวและมีแค่สามนิ้ว 
ส่วนลักษณะศีรษะมัมมี่ที่เรียวโหนกนั้น ความจริงเป็นเรื่องปกติมาก 

เนื่องจากชนเผ่ายุคโบราณ นิยมการบังคับรูปทรงหัวกะโหลกของทารกให้สูงชัน มีการใช้เครื่องมือบีบอัดตั้งแต่แบเบาะ ซึ่งกะโหลกยังไม่ปิดสนิทดี จนทำให้ศีรษะเปลี่ยนรูป ส่วนใบหูที่หายไปนั้น ก็พบว่า มัมมี่
ที่ค้นพบในเม็กซิโกก็มีลักษณะเดียวกันคือ ไม่มีใบหูและมีจมูกที่เล็ก จึงเป็นบทสรุปจากฝั่งนักวิจัยว่า 
มัมมี่ที่เห็น คือร่างของคนนี่เอง.

มัมมี่เอเลี่ยน
มัมมี่เอเลี่ยน

พบฟอสซิลอุจจาระอายุ 1200 ปี ของชาวไวกิ้ง

😨อุจจาระอายุ 1,200 ปี ของชาวไวกิ้ง ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของคนในยุคนั้น ได้เป็นอย่างดี
อุจจาระอายุ 1,200 ปี ของชาวไวกิ้งถูกห่อหุ้มเก็บไว้อย่างดี ขุดพบเมื่อปี 1972 ที่เมืองยอร์ค ประเทศอังกฤษ มันได้บอกถึงเรื่องราว ลักษณะการบริโภคอาหารในยุคนั้น และแสดงให้เห็นว่าเจ้าของ มีปัญหาจากปรสิตในลำไส้

ที่น่าตลกคือ ตอบขุดพบนั้น นักสำรวจนึกว่ามันคือกระดูก เพราะมันถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี ในกล่องหิน ทุกคนต่างดีใจกันยกใหญ่ แต่พอผลตรวจออกมาเท่าน้ันแหละ ทุกคนจ๋อยกันไปเลย ฮ่าๆๆๆๆ

จากการวิเคราะห์ของนักสำรวจพบว่า สาเหตุที่อุจจาระก้อนนี้ถูกพันเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีนั้นก็เพราะ ในยุคนั้นอาจมีโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หมอจึงให้ผู้ป่วยรายนั้นอุจจาระที่ถ่ายไว้เก็บใส่ห่อมา เพื่อนำมาตรวจสอบว่าโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารที่กำลังระบาดอยู่นี้เกิดจากอะไร
จนได้ข้อสรุปว่า เนื่องจากชาวไวกิ้งกินเนื้อเป็นหลักซึ่งมันไม่ดีต่อสุขภาพ แถมยังดื่มหนัก บวกกับในอดีตที่สุขอนามัยยังไม่ค่อยจะดีนักจึงการระบาดของโรคพยาธิปากขอ บางคนก็อึแตก บางคนก็ท้องผูก ทำให้อุจจาระที่ออกมานั้นแข็งเหมือนกับหิน จนตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นฟอสซิล (สงสารตอนเบ่งจริงๆ)

รายการบล็อกของฉัน