Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แมวนำโชค( "มาเนะคิ เนะโกะ")


หลากเรื่องเล่าเกี่ยวกับ แมวนำโชค หรือ มาเนะคิ เนะโกะ
เรื่องที่ 1
แมวกวักเห็นเค้าชอบวางไว้หน้าร้านค้า เพื่อที่จะเรียกลูกค้า เรียกว่า "มาเนะคิ เนะโกะ"
"มา เนะคิ" แปลว่า "เชื้อเชิญ" ส่วน "เนะโกะ" แปลว่า "แมว" มาเนะคิ เนะโกะ ก็คือ แมวที่ทำหน้าที่เชื้อเชิญ เช่น เชื้อเชิญเงินทอง เชื้อเชิญโชคลาภให้เข้ามา ซึ่งก็คือ "แมวนางกวัก" เป็นรูปปั้นแมว ยกมือ หรือเท้าหน้าขึ้นข้างหนึ่ง ถือกันว่าเป็นสิ่งที่กวักความสุขเข้ามาหาเจ้าของ มีตำนานมากมายที่เล่าถึงต้นกำเนิดของแมวนางกวัก อย่างเรื่องหนึ่งที่เล่าต่อๆ กันมาว่า ที่มาของการปั้นแมวนางกวักมาจากหญิงชรานางหนึ่ง เธอยากจนมากแต่ก็พยายามเจียดอาหารเท่าที่มีเพื่อเลี้ยงแมวแสนรัก กระทั่งวันหนึ่งเธอก็ไม่สามารถจะเลี้ยงแมวตัวนั้นได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจจะนำแมวไปปล่อย คืนนั้นก่อนนอนเธอร้องไห้ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเสียใจแล้วเธอก็ฝันเห็นแมวมาบอกให้เธอปั้นรูปแมวด้วยดินเหนียว แล้วจะโชคดี
หญิง ชราตื่นขึ้นมาก็ปั้นแมวด้วยดินเหนียวตามที่ฝัน วันนั้นมีแขกมาและขอซื้อแมวดินเหนียวตัวนั้น ยิ่งหญิงชราปั้นแมวมากเท่าใด แขกก็เข้ามาขอซื้อมากขึ้นเท่านั้น ที่สุดเธอก็มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงแมวที่เธอรักได้ตลอดไป เพราะแมวดินเหนียวนำโชคเหล่านั้น
"แมวนางกวัก" นอกจากจะเป็นเครื่องรางของสังคมญี่ปุ่น แต่ก็มีชาติอื่นนิยมสะสมเช่นกัน เพราะความที่มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ใช้เรียกเงินเรียกทอง ทั้งยังเป็นเหมือนโลโก้แสดงความมีไมตรี
แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า แมวนางกวักบางตัวก็ยกมือซ้าย บางตัวก็ยกมือขวา อันนี้มีความหมาย
ถ้ายกมือ "ซ้าย" เป็นการเรียกแขกเข้ามาในบ้าน ในร้าน คือ เรียกลูกค้าเข้ามาซื้อของ ยิ่งยกมือสูงเท่าไร แขกจะเข้าร้านมากขึ้นเท่านั้น
แต่ ถ้ามือ "ขวา" ถือว่า กวักเรียกเงินทอง เรียกความโชคดีเข้ามาในบ้าน นอกจากนี้เรื่องของสีก็มีความหมาย ถ้าเป็น "แมวสามสี" ยกมือซ้าย ถือว่าเป็นโชคดีที่สุด เรียกว่ากวักเงินเข้ามาชนิดที่ไหลมาเทมากันเลยทีเดียวถ้าเป็น "แมวสีดำ" สตรีญี่ปุ่นนิยมใช้เป็นเครื่องรางประจำตัว เชื่อว่าจะช่วยปกป้องภยันตรายทั้งปวง

เรื่องที่ 2
เรื่องเล่าเกี่ยวกับ มะเนะกิ เนะโกะ อยู่ว่า ในช่วงสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868)
มีแมวตัวหนึ่งได้นำโชคลาภมาสู่ วัดเก่าโทรมๆวัดหนึ่งโดย
ในขณะนั้นมีอยู่วันนึง เป็นวันที่มีพายุฝนตกอย่างหนัก เจ้าแมวก็ได้ กวักขาหน้าของมัน เพื่อเรียกคนที่ผ่านไปมา ให้เข้ามาหลบฝนในวัด ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ แมวกวักเรียกเพื่อเชื้อเชิญให้เข้ามาหลบพายุนั้น ก็มีเจ้าผู้ครองแคว้นฮิโคเนะ รวมอยู่ด้วย ภายหลังต่อมา ท่านเจ้าผู้ครองแคว้นก็ได้กลายเป็นผู้อุปถัมภ์
วัดนั้นจนกลายเป็นวัด ที่มีความเจริญ จึงถือได้ว่า แมวตัวนั้นเป็นแมวที่นำพาโชคและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดครับในประเทศ ญี่ปุ่นนะครับ ในวันขึ้นปีใหม่ ของทุกปีประชาชนก็จะพากันไปกราบไหว้ สักการะ พระพุทธรูป ตามวัด และ ศาลเจ้าต่างๆเพื่อความเป็นสิริมงคล ทางวัด และ ศาลเจ้านั้น เค้าก็จะแจก
ตุ๊กตาแมวกวักตัวเล็กๆนี้มาด้วยครับ เพื่อเป็นเครื่องรางนำโชค

เรื่องที่ 3
แมวกวัก "มาเนกิ เนโกะ"
คนญี่ปุ่นเชื่อว่ามีขุนนางท่านหนึ่งในเมืองโตเกียวเดินทางกลับจากราชการ
ได้เกิดฝนตกหนักจึงได้พักหลบที่ต้นไม้ใหญ่ในอารามเก่าขณะหลบฝนอยู่เห็นแมวตัวหนึ่ง
กวักมือเรียก จึงตัดสินใจผละออกจากต้นไม้และในทันใดนั้น ฟ้าก็ผ่าลงมา กลางต้นไม้ทันที
นับแต่นั้นมาท่านขุนนางก็เป็นผู้อุปถัมภ์อารามนั้นอย่างดี ต่อมาวัดแห่งนั้น
ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โกอุโตกุจิ" ในปัจจุบันซึ่งคนญี่ปุ่นก็เชื่อว่า "มาเนกิ เนโกะ" สามสีมีไว้
ครอบครองแล้ว จะนำพาโชคลาภมาให้เพราะแมวสามสีจะเป็นตัวผู้และหาได้ยากมาก
แต่ก็ไม่ได้แสดงหลักฐานแน่ชัด แต่ที่แน่ๆ คนไทยหลายคนได้รับอารยธรรม
ความเชื่อในเรื่องนี้ สังเกตได้จากตามร้านค้าต่าง ๆ ที่ตั้ง "มาเนกิ เนโกะ" เสมือนนางกวัก
ช่วยกวักโชคลาภและเงินทองเข้าร้าน นอกจากนี้ "มาเนกิ เนโกะ" ยังถูกนำไปเป็นพวงกุญแจ
กระดิ่ง ประดับคู่กระเป๋าสะพาย หรือโทรศัพท์มือถือ ของบรรดานักศึกษาสาว ๆ ซึ่งเป็นแมวกวัก
มือขวาเชื่อกันว่า ช่วยหาคู่ให้ แต่จะได้ผลแค่ไหนต้องลองพิสูจน์เองนะคะ
แมว "มาเนกิ เนโกะ" มี 2 อิริยาบถ แบบที่ยกอุ้งเท้าซ้านและแบบที่ยกอุ้งเท้าขวา
ตามความเชื่อแมวที่ยกข้างซ้ายจะเป็นการเรียกลูกค้าเข้าร้าน ส่วนแมวที่ยกข้างขวา จะหมายถึง
เรียกเงินเรียกทองไหลเข้าบ้าน.


เรื่องที่ 4
นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะร้านอาหารภัตตาคาร ร้านค้า หรืออื่นๆ เกือบทุกร้านจะมี แมวนำโชค รูปแบบของแมวนำโชคเป็นแมวที่มีขาหน้าอย่างน้อยหนึ่งข้างยกขึ้นกวักโดยทั่วไป เป็นแมวสีขาวใส่ปลอกคอมีกระดิ่งเป็นสัญลักษณ์ในร้านอาหารจีนแมวนำโชคจะกวัก ให้ผู้คนเข้าไปในร้านหรือให้ความโชคดีเข้ามา แมวนำโชคได้มีการกล่าวขวัญถึงในหลายศตวรรต ในหลายเรื่องที่กล่าวถึงโดยทั้งหมดว่ามาจากวัดเก่า เป็นไม้ : ได้มีนักเดินทางคนหนึ่งหลบพายุใกล้กับต้นไม้ ได้มีแมวตัวหนึ่งปรากฏขึ้น แสดงอาการให้นักเดินทางตามไปจนหลบจากพายุเข้าไปในวัดขณะที่นักเดินทางเดิน ตามไปได้เกิดเป็นช่องแสงสว่าง ด้วยเพราะว่าแมวได้ช่วยชีวิตเขา เขาและครอบครัวเขาได้มาที่วัดแล้วนำแผ่นไม้รูปแมวกลับไปบูชา บางคนเชื่อว่าแมวนำโชคจะนำเหรียญทองมาจากสวรรค์เมื่อมีการบูชาหลายแหล่ง เชื่อว่าอุ้งมือของแมวเป็นสัญลักษณ์ แห่งความโชคดีแต่จะไม่เหมาะกับบ่อนการพนันแมวนำโชคอาจยกเท้าซ้ายหรือขวาก็ ได้ มีความเชื่อว่า ถ้าแมวนำโชคยกเท้าซ้ายจะเป็นการเรียกผู้คน(ลูกค้า) ถ้ายกเท้าขวาจะเป็นการเรียกเงินทองหรือความโชคดี บางคนก็ว่ากลับกันหากคุณต้องการแมวนำโชคไว้ที่ทำงานหรือร้านของคุณหรือที่ ประกอบธุรกิจหรือบ้านเพื่อความโชคดีควรวางไว้ใกล้ประตูหน้าร้านค้ากล่าวกัน ว่าจะนำลูกค้าใหม่ๆมาให้

รายการบล็อกของฉัน