Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2566

เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก

😁เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อน

🎆โลกของเรามีอยู่มาอย่างยาวนานและเกิดการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการที่ไม่รู้จบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสิ่งที่เราเห็นและรับรู้ได้ในปัจจุบันยังคงไม่ใช่ทุกสิ่งที่โลกเรามีหรือเคยมี
👉วันนี้ จึงชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 7 ตำนานเมืองที่สาบสูญไปของโลก ที่ความเป็นจริงแล้วในสมัยก่อนเราอาจเคยมีอารยธรรมที่รุ่งเรืองมากกว่าตอนนี้ก็เป็นได้ เราไปดู
กันเลย....
1️⃣ Lemuria
จากการสันนิษฐานของนักวิชาการชาวอังกฤษเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เชื่อมระหว่างศรีลังกา ออสเตรเลีย และเกาะมาดากัสการ์รวมกันเป็นแผ่นดินใหญ่ก่อนที่จะจมหายไปใต้ก้นมหาสมุทร และชื่อ Lemuria ถูกตั้งมาจากชื่อของตัว ลีเมอร์ (Lemur) ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้จากทั้งสามแห่ง
นอกจากนั้นก็มีความเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของชาวทมิฬ กลุ่มประชากรที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตามภาษาทมิฬแล้วที่แห่งนี้จะมีชื่อว่า Kumari Kandam
2️⃣ Mu
เป็นดินแดนที่เชื่อว่าเคยอยู่ระหว่างทวีปอเมริกาและเอเชีย คาดว่าเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร Naacals ต้นกำเนิดของมนุษย์ที่ย้อนกลับไปเมื่อ 50,000 ปีที่แล้ว ผู้สร้างพีระมิดในอียิปต์หรือชาวมายันก็ถูกสันนิษฐานว่าจะอพยพออกมาจากดินแดนแห่งนี้ในตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนทำให้สถานที่นี้จมลงไปใต้มหาสมุทร
เคยมีทฤษฎีที่บอกเอาไว้ด้วยว่าโขดหินใต้น้ำโยนากุนิ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงการมีอยู่ของ Mu
3️⃣ Beringia
ดินแดนที่เปรียบได้กับสะพานขั้นกลางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือ ก่อนที่จะจมหายพร้อมกับการสิ้นสุดยุคน้ำแข็งเมื่อ 12,000 ปีก่อนเพราะการอพยพของสัตว์มากมายจนอาจทำให้พื้นน้ำแข็งต้องจมลงไป...
มีทฤษฎีที่เชื่อว่า 25,000 ปีก่อนมีผู้คนย้ายถิ่นฐานมาจากไซบีเรีย ผ่านไป 10,000 ปีพวกเขาได้อพยพไปอเมริกาเหนือและค่อยกระจายลงไปอเมริกาใต้ จึงเชื่อว่าพวกเขาอาจเป็นบรรพบุรุษของชาว Mesoamerica รวมถึงชนพื้นเมืองที่เรียกกันว่าอินเดียแดง
4️⃣ Doggerland
Doggerland เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เคยตั้งอยู่ระหว่างอังกฤษกับเดนมาร์ก เหมาะแก่การล่าสัตว์และหาปลาจนได้รับความนิยมจาก
ผู้คนในช่วงยุคหินกลางเมื่อ 12,000 ปีก่อน...
การหายไปของสถานที่แห่งนี้เกิดจากคลื่นสึนามิลูกใหญ่สูงกว่า 7 เมตรทำให้เกิดแผ่นดินถล่มและจมลงสู่ก้นทะลในที่สุด ต่อมานักดำน้ำได้ค้นพบซากของสัตว์สูญพันธุ์ กระโหลกของบรรพบุรุษมนุษย์และอาวุธโบราณในบริเวณดังกล่าวใต้ทะเลเหนือ
5️⃣ Iram of the Pillars
เมืองนี้มีการบันทึกเอาไว้ในคัมภีร์
อัลกุรอานว่าเป็นสถานที่แห่งความร่ำรวยเต็มไปด้วยเสาที่แสดงถึงความสูงส่ง แต่ผู้คนในเมืองที่เรียกกันว่าชาว Ad ได้เลิกนับถืออัลเลาะห์ ทำให้พวกเขาเจอกับพายุทรายเข้าถล่มอย่างหนักนาน 8 วัน 7 คืนและจมอยู่ใต้ทะเลทรายในที่สุด...
ฟังดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องเล่า แต่ในปี 1991 ได้มีการค้นพบเศษซากของการมีอยู่จริงของเมืองนี้ในประเทศโอมาน
6️⃣ Zealandia
สถานที่แห่งนี้ถูกคาดการณ์เอาไว้ว่าจมลงไปเพราะการเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อ 70 ล้านปีก่อน มีส่วนที่เหลือรอดอยู่บนผิวน้ำแค่ 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นประเทศนิวซีแลนด์ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เชื่อว่าส่วนที่จมไปจะกลับขึ้นมาอีกครั้งถ้าหากระดับน้ำทั่วโลกยังคงดันตัวสูงขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ในปี 2006 ได้มีการค้นพบฟอสซิลกรามของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แสดงให้เห็นว่า Zealandia มีสิ่งมีชีวิตในลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเองก่อนที่จะหายไป
7️⃣ Hy-Brasil
Hy-Brasil หรืออีกชื่อคือ Brasil โผล่ในแผนที่ตั้งแต่ปี 1325 จนสิ้นสุดศตวรรษที่ 19 ห่างออกไป 193 กิโลเมตรทางตะวันตกของไอร์แลนด์ สถานที่แห่งนี้จะจมอยู่ในน้ำและขึ้นมาแสดงให้เห็นในบางเวลาและเป็นต้นกำเนิดของตำนานแห่งท้องทะเลอีกหลายเรื่อง



จากคำบอกเล่าของนักเดินเรือ เกาะแห่งนี้จะถูกหมอกบังเอาไว้ตลอด ยกเว้นวันหนึ่งในรอบ 7 ปีถึงจะแสดงออกมาให้เห็นและมีการพบปราสาทหินหลังใหญ่อยู่บนเกาะ นอกจากนั้นยังมีจอมเวทย์ที่มอบเงินทองของมีค่าให้กับพวกเขาอีกด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงตำนานที่เล่ากันปากต่อปากเท่านั้น

ที่มา: Hybrid Librarian

รายการบล็อกของฉัน