ชาวอียิปต์โบราณได้สร้างระบบกลไกที่ละเอียดอ่อนโดยใช้แท่งหิน ร่อง และทางลาดภายในมหาพีระมิดแห่งกิซ่าเพื่อปกป้องสุสานของกษัตริย์จากพวกโจรนักล่าขุมทรัพย์
Mark Lehner นักอียิปต์วิทยาที่ปัจจุเป็นเป็นหัวหน้าสมาคมวิจัยอิยิปต์โบราณ (Ancient Egypt Research Associates – AERA) ซึ่งเป็นทีมงานที่ได้ทำการขุดสำรวจที่มหาพีระมิดแห่งกิซ่าเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ได้อธิบายการทำงานของระบบดังกล่าวซึ่งเขาเรียกมันว่า “กลไกแบบดั้งเดิม” ในรายการ “Unearthed” ทางช่อง Science Channel
นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าสุสานของกษัตริย์ยังเก็บรักษาพระศพของฟาโรห์คูฟู (ครองราชย์ระหว่าง 2551-2528 ปีก่อนคริสตศักราช) ผู้สร้างมหาพีระมิดแห่งกิซ่าซึ่งเป็นพีระมิดที่สูงที่สุดในอียิปต์ นอกจากสุสานของกษัตริย์แล้วภายในมหาพีระมิดยังมีสุสานขนาดใหญ่อื่นอีก 2 แห่ง เรียกว่าสุสานราชินี และสุสานใต้ดิน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าทั้งสองห้องใช้สำหรับทำอะไร
หลังเสร็จพิธีฝังพระศพฟาโรห์ระบบจะทำการปล่อยแท่งหินลงมาปิดทางเข้าสุสาน และแท่งหินอีก 3 แท่งจะถูกปล่อยให้ไหลตามทางลาดลงมาปิดช่องทางเดินเข้าสู่สุสาน
คุณสามารถเห็นการทำงานของมันในวิดีโอข้างล่าง
แต่มันยังมีกลอุบายมากกว่านี้ มีการพบช่องทางเดินเล็กๆอีก 4 ช่อง มี 2 ช่องเริ่มจากสุสานกษัตริย์ อีก 2 ช่องเริ่มจากสุสานราชินี หุ่นยนต์ได้ถูกส่งลงไปสำรวจช่องทางเดินนี้และได้พบประตู 3 บานที่มีมือจับเป็นทองแดง
Zahi Hawas อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ บอกว่าเขาคิดว่าทางเดินเล็กๆนี้จะนำไปสู่ห้องฝังพระศพฟาโรห์คูฟูที่แท้จริง โลงหินในสุสานของกษัตริย์เป็นกลอุบายหลอกนักล่าสมบัติให้คิดว่าพบหลุมศพฟาโรห์แล้ว
“ผมเชื่อจริงๆว่าห้องฝังพระศพฟาโรห์คูฟูยังไม่ได้ถูกค้นพบเลย และห้องทั้งสามเป็นเพียงการหลอกลวงพวกหัวขโมย และทรัพย์สมบัติของฟาโรห์คูฟูยังคงซ่อนอยู่ภายในพีระมิด” Hawass กล่าว
นักอียิปต์วิทยาหวังว่าการสำรวจพีระมิดครั้งใหม่ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยการใช้การสแกนด้วยเรดาร์ อินฟาเรด และรังสีคอสมิก จะช่วยให้พบกับห้องสุสานที่ซ่อนอยู่