พบซากคล้ายศพเอเลี่ยนในรัสเซีย

พบซากคล้ายศพเอเลี่ยนในรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญยัน ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนโลก
 
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งมีชีวิตนอกโลก ยืนยัน ซากปริศนาที่พบบริเวณชายฝั่งในประเทศรัสเซีย ไม่ใช่ซากจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องราว กรณีที่มีร่างกายไร้วิญญาณลักลับ คล้ายสัตว์ประหลาด ซึ่งมีลักษณะกะโหลกศีรษะแปลกประหลาด ตกอยู่ในลักษณะสภาพศพแห้งกรัง บริเวณชายฝั่งแม่น้ำแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศรัสเซีย

แน่นอนว่า เมื่อมีการพบซากปริศนาที่มีลักษณะแปลกประหลาด ย่อมมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นสิ่งชีวิตจากนอกโลก หรือ ซากสัตว์ หรือ มนุษย์ต่างดาว ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญ ยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ในขณะนี้

ทั้งนี้รายงานระบุว่า ในตอนแรก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกดังกล่าว คิดว่าซากที่พบ เป็นซากของตัวอ่อนมนุษย์ เนื่องจากมีขนาดเล็กเกินกว่าจะเป็นซากทารกทั่วไป แต่รูปลักษณ์ยังมีความแตกต่างทางกายภาพของมนุษย์อยู่มาก โดยซากดังกล่าว ได้ถูกนำมาพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชีวฟิสิกส์ ในเมืองครัสโนยาสค์ ในไซบีเรีย

ทว่านักวิจัยออกมาให้ความเห็นว่า ถึงแม้ซากที่พบ จะมีลักษณะคล้ายปลากึ่งไก่ แต่ในความเป็นจริงนั้น ซากไม่มีความผูกพันธ์ทางสายพันธ์ของสัตว์ทั้งสองชนิด ทั้งยังมีกะโหลกศีรษะที่แปลกประหลาด ไม่มีลำคอ และ ปีก

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยทางสิ่งมีชีวิตนอกโลก ยืนยันว่า ซากดังกล่าว ไม่ใช่ซากของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้จะมีการนำร่างดังกล่าว ส่งไปยังกรุงมอสโก เพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอหาความจริงต่อไป

เทคนิคพิเศษตรวจพบโครงสร้างลึกลับใต้ ‘นครวัด’

สุดพิศวง ! เทคนิคพิเศษตรวจพบโครงสร้างลึกลับใต้ ‘นครวัด’
นักโบราณคดี ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ สำรวจนครวัด พบหลายสิ่งที่น่าประหลาดใจ ทั้งโครงสร้างปริศนา รวมทั้งซากสิ่งปลูกสร้างใต้ดินลึกลับ 

ที่เป็นกระบวนการก่อสร้างวิหารนครวัด

พบโครงสร้างปริศนาใต้ ‘นครวัด’
มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ เกี่ยวกับ ‘นครวัด’ ผ่านเว็บไซต์ livescience เผยแพร่ผ่านผลการศึกษาของ โรลันด์ แฟลทเชอร์ ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดี ของมหาวิทยาลัยแห่งซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และดาเมียน อีแวนส์ นักวิจัยด้านโบราณคดีจาก เอกอล ฟรองเซส์ เด๊กตรีม ออคริยองต์

จากการตรวจสอบทั้งโครงสร้างปริศนานี้และซากหอสูงที่ค้นพบใหม่ มีอายุเท่ากับครั้งที่มีการก่อสร้างนครวัด โดยหลักฐานการใช้ เลเซอร์สแกน “ไลดาร์” (LiDAR) ซึ่งเป็น เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อเจาะลึกไปถึงโครงสร้างพื้นดินของนครวัด เผยให้เห็นโครงสร้างมีที่มีลักษณะเป็นเกลียวขดสี่เหลี่ยม โครงสร้างขนาดใหญ่ทำจากหินทราย ยาวถึงกว่า 1.5 กิโลเมตร กว้าง 600 เมตร การค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบที่น่าประหลาดใจที่สุดที่เกี่ยวเนื่องกับนครวัด แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าโครงสร้างนี้ถูกสร้างมาเพื่อการใด

การค้นพบครั้งนี้ ทีมนักโบราณคดี ยังเจอกับคือซากของสิ่งปรักหักพังที่เชื่อว่าเป็นหอสูงรวม 8 หอ สร้างจากหินทรายและศิลาแลง ตั้งอยู่บริเวณด้านตะวันตกของ นครวัด มีร่องรอยการรื้อทำลาย ข้างประตูทางเข้าที่ใช้สำหรับข้ามคูน้ำรอบวิหาร รวมถึงเผยให้เห็นกลุ่มบ้านเรือนและสระที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของคนที่ทำหน้าที่รับใช้ในวิหาร

เมื่อวิหารแห่งนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นศาสนสถานเพื่อรองรับพิธีกรรมทางพุทธ ศาสนาแทนที่จะเป็นฮินดู จึงมีการก่อสร้างป้อมค่ายสำหรับใช้ทางด้านการทหารด้วยโครงสร้างไม้เพื่อปกป้องวิหารแห่งนี้

แม้หลักฐานจะไม่ชี้ชัดอะไรมากนัก เกี่ยวกับปริศนาเหล่านี้ แต่ข้อสันนิษฐานประการหนึ่งคือ โครงสร้างดังกล่าวถือแนวสวน ซึ่งใช้สำหรับเพาะปลูกสิ่ง เพื่อนำมาประกอบในพิธีกรรมของวิหารนครวัด และใช้สำหรับบริโภคในเวลานั้น ทั้งสองยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า รูปแบบที่ขดวนเป็นเกลียวอย่างที่พบนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะมีนัยสำคัญทางด้านจิตวิญญาณ หรือความเชื่อในอดีต

นักโบราณคดีทั้งสองตั้งสมมุติฐานเอาไว้ว่า หอสูงต่างๆ เหล่านี้น่าจะเป็นส่วนฐานรองรับวิหารชั่วคราว ซึ่งถูกใช้งานในระหว่างที่การก่อสร้างวิหารนครวัดดำเนินอยู่ ก่อนที่จะถูกรื้อทำลายในช่วงเวลาที่การก่อสร้างกำแพงวิหารและประตูทางเข้า ด้านตะวันตกเริ่มต้นขึ้น

อย่างไรก็ตาม นครวัดเป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญ และเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก สร้างขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 

โดยพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 2 โปรดฯให้สร้างขึ้นเพื่อถวายปฏิบัติบูชาแด่องค์วิษณุเทพ นครวัดเป็นวิหารกลางสูง 65 เมตร ล้อมรอบด้วยหอต่างๆ และกำแพงปิดล้อมหลายชั้น ผังการก่อสร้างเป็นการสื่อถึง “เขาพระสุเมร” ที่มี “ทะเลกษีรธารา” รายล้อมอยู่โดยรอบตามคติฮินดู